รับมือกับ Toxic People

ต้องยอมรับว่าในสังคมปัจจุบันเรามักจะเจอกับ Toxic People จำนวนมาก ซึ่งคนส่วนใหญ่เหล่านี้ไม่รู้ตัวว่าตนเองนั้นคือคนที่เป็นพาต่อผู้อื่น คนเหล่านี้มักจะพูดและกระทำสิ่งต่างๆตามอำเภอใจของตัวเองโดยที่ไม่คำนึงหรือคิดถึงใจของผู้อื่นและมักจะคอยทำให้ผู้อื่นนั้นเดือดร้อนและรู้สึกไม่ดีจากคำพูดและการกระทำของตนเองเสมอ

โดยส่วนใหญ่ Toxic People มักจะพบจากสังคมขนาดใหญ่และในสังคมนั้นจะไม่ได้มีเพียงคนเดียวที่เป็น Toxic People แต่ยังมีหลายคนที่เป็นและไม่ทราบว่าตัวเองนั้นมีลักษณะของการเป็น Toxic People ด้วย

รับมือกับ Toxic People ดังนั้นแล้วเมื่อเรานั้นได้เข้าไปอยู่ในสังคมขนาดใหญ่และได้เจอกับ Toxic People การรับมือกับคนเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่ควรจะต้องเรียนรู้ ศึกษาเพื่อเอาไปรับมือกับคนเหล่านี้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อเราได้อยู่กับคนเหล่านี้ในระยะเวลาที่นานก็อาจจะทำให้เรานั้นกลายเป็น Toxic People ไปด้วยได้เช่นกัน

การรับฟังอย่างเข้าใจ คนเหล่านี้มักจะพูดสิ่งต่างๆออกมาโดยไม่ได้คิด การรับฟังเขานั้นเราอาจจะต้องทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขานั้นพูดออกมา ไม่แปลกที่เขานั้นยากจะพูดสิ่งต่างๆหรือสิ่งที่ตัวเขาได้เรียนรู้และได้รับมา แน่นอนว่าพวกเขามักจะพูดให้เรานั้นคล้อยตามและมีความคิดเห็นที่ตรงกันกับเขานั่นเอง  ufabet auto   ดังนั้นการรับฟังอย่างเข้าใจคือการไม่คล้ายตามในสิ่งที่เขาพูด แต่อาจจะต้องมีการพูดคุยและทำความเข้าใจกันด้วย

การไม่เก็บไปคิด ต้องบอกเลยว่า Toxic People เป็นคนที่น่ากลัวมากเมื่อพูดหรือกระทำสิ่งใดๆออกมา เพราะจะทำให้เรานั้นเก็บหรือนำไปคิดและคล้ายตามได้ การไม่เก็บสิ่งต่างๆที่เหล่า Toxic People นั้นได้กระทำหรือพูดให้เราฟังนั้นไปคิดก็จะทำให้เรานั้นไม่เครียดหรือไม่คล้อยตามในสิ่งที่พวกเขานั้นพูด

การตักเตือนและแนะนำ แม้คนเหล่านี้จะไม่ได้มีการยอมรับในคำตักเตือนและแนะนำที่ง่ายมากนัก แต่การพูดตรงๆเพื่อตักเตือนในสิ่งที่ไม่ควรทำหรือควรพูดออกมานั้นก็เพื่อที่จะทำให้คนเหล่านี้นั้นสามารถนำกลับไปคิดหรืออาจะมีการปรับปรุงแก้ไขตัวเองได้

การแสดงความคิดเห็นหรือแสดงจุดยืนของความแตกต่าง Toxic People มักจะตั้งตัวเองว่าตัวเองนั้นมีความคิดและการกระทำที่ถูกต้อง และสิ่งที่ตัวเองนั้นเป็นตามหลักธรรมชาติ การรับมือด้วยการแสดงความคิดเห็นและแสดงจุดยืนให้ Toxic People นั้นเห็นว่าสิ่งต่างๆนั้นไม่ได้มีเพียงด้านเดียว ทำให้พวกเขานั้นได้ฟังและได้รู้ว่าสิ่งต่างๆนั้นมีสองด้านเสมอ

ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ยากที่จะรับมือกับคนเหล่านี้ด้วยการแสดงความคิดเห็นก็ตาม แต่ถ้าหากว่าเรานั้นมีจุดยืนและสามารถที่จะแสดงตัวตนจุดที่เรายืนได้ ก็จะทำให้คนเหล่านี้นั้นเลิกมาพูดหรือทำอะไรที่ทำให้รู้สึกเป็นพิษได้

เราใช้พลังของดนตรีเพื่อฝึกฝน Changemakers เชิงบวก

พลังแห่งเสียงเพลง Sounds of Change ฝึกฝนผู้คนที่ทำงานกับชุมชนที่อาศัยอยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทาย

เราใช้พลังของดนตรีเพื่อฝึกฝน  สำหรับคนเหล่านี้ คำพูดมักไม่เพียงพอที่จะแสดงออก เพื่อรับมือกับอารมณ์หนักอึ้งและรู้สึกปลอดภัยอีกครั้ง จำเป็นต้องมีวิธีการอื่น ดนตรีผูกมัดผู้คนและเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการแสดงออกถึงความเป็นตัวคุณในแบบที่แตกต่างจากคำพูด การทำดนตรีช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และดึงดูดจินตนาการ

การแต่งและสร้างสรรค์ดนตรีนำไปสู่การค้นพบความเป็นไปได้อื่นๆ และช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลไกการเผชิญปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ยังปลุกความเข้าใจว่ามีโอกาสสร้างอนาคตอยู่เสมอ แม้ว่าคุณจะอาศัยอยู่ในกลางสงคราม เมืองที่ถูกทำลายล้าง หรือในค่ายผู้ลี้ภัย

แนวทางเสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง พลังแห่งดนตรี เรามุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายโดยใช้กระบวนการทางดนตรีที่สร้างสรรค์ กระบวนการเหล่านี้ดึงดูดจินตนาการของแต่ละคนและกลุ่ม คำว่า กระบวนการดนตรีที่สร้างสรรค์เกี่ยวข้องกับทฤษฎีการปฏิบัติทางดนตรีที่สร้างสรรค์ร่วมกัน

โดย Peter Renshaw (Renshaw, 2011, ‘Working Together’) การแต่งเพลง (ใหม่) ในพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งผู้คนสามารถแบ่งปันประสบการณ์ พลัง และความหวัง จะนำชั้นที่ลึกกว่ามาสู่ผลงานดนตรี เพลงประกอบสะท้อนถึงความเป็นปัจเจกบุคคลและความสามัคคีของกลุ่ม

  • ด้วยการใช้กระบวนการเหล่านี้ ผู้คนจะส่งเสริมซึ่งกันและกันในการทำงานร่วมกัน

ซึ่งจะสร้างรังสำหรับความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่สามารถกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงได้ ในการทำเช่นนั้น คุณสามารถสำรวจว่าคุณเป็นใคร ใครคือ “คนอื่น” และคุณสัมพันธ์กับโลกรอบตัวคุณอย่างไร กระบวนการทางดนตรีที่สร้างสรรค์ยังสนับสนุนความเข้าใจว่ามีโอกาสที่จะสร้างบางสิ่งบางอย่างเพื่อสร้างอนาคตอยู่เสมอ แม้ว่าคุณจะอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยหรือเมืองที่ถูกทำลาย นอกจากนี้ การทำดนตรีเป็นวาล์วหลบหนีทางอารมณ์ที่สำคัญ เมื่อคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและเมื่อคุณประสบกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ คำพูดมักจะไม่เพียงพอที่จะแสดงความเป็นตัวคุณ

  • เทคนิคที่ใช้โดยเสียงของการเปลี่ยนแปลง

เรามุ่งเน้นที่ พัฒนาความตระหนักทางอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น การสร้างพื้นที่สนุกสนานเพื่ออำนวยความสะดวกในการด้นสดและการจัดกลุ่ม พิพากษาล่าช้า การฟังและการแสดงออกอย่างกระตือรือร้น ทำงานร่วมกันผ่านการสื่อสารแบบไม่ใช้คำพูดและไม่ใช้ความรุนแรง

ผู้ฝึกสอน Sounds of Change ของเราตั้งใจที่จะส่งเสริมความปลอดภัยและความยืดหยุ่น ตลอดจนตอบสนองต่อช่วงเวลาและมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหา โดยการกระทำตามแนวทางนี้ พวกเขาจะกลายเป็นแบบอย่างสำหรับผู้เข้าร่วม ค่านิยมหลักที่สำคัญอีกประการหนึ่งเกี่ยวข้องกับบริบทของสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น เมื่อออกแบบโปรแกรมแต่ละโปรแกรม เราจะพิจารณาความต้องการของคนในท้องถิ่นและองค์กร ตอบสนองและปรับตัวเมื่อเซสชันดำเนินไปและมีการดำเนินไปตามขั้นตอนและมีการสำรวจวักผลอย่างเป็นระยะและผลมักออกมาในเชิงบวกมากกว่า

 

สนับสนุนโดย    ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

ดนตรีสามารถปรับปรุงสุขภาพและคุณภาพชีวิตของเราได้หรือไม่

ดนตรีช่วยเพิ่มอารมณ์และความเป็นอยู่ที่ดีของเรา และดนตรีบำบัดอาจช่วยในระหว่างการรักษาภาวะสุขภาพบางอย่างได้

ดนตรีสามารถปรับปรุงสุขภาพ เวลาเป็นเรื่องยาก บรรยากาศทางการเมืองในปัจจุบัน สงคราม ผลกระทบของภาวะโลกร้อน ความไม่เท่าเทียมกันอย่างต่อเนื่องเนื่องจากการเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นระบบ และความท้าทายด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจจากโควิด-19 กำลังส่งผลกระทบต่อความรู้สึกปลอดภัยในโลกและคุณภาพชีวิตของเรา

หวังว่าเราแต่ละคนจะพบช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายและเปลี่ยนความคิดของเราให้ห่างไกลจากข่าวประจำวันที่ยากลำบากได้ชั่วคราว สำหรับคนจำนวนมาก ดนตรีสามารถมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงนั้น แม้จะเพิ่มขึ้นทีละน้อยก็ตาม

ดนตรีมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเราอย่างไร เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิจัยได้ศึกษาผลกระทบของการแทรกแซงทางดนตรีที่มีต่อคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ

และพยายามตอบคำถามเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยเปลี่ยนไปสู่การปลดปล่อย การผ่อนคลาย และการฟื้นฟูสมรรถภาพ การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์อภิมาน (การศึกษาการศึกษา) เมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่าการใช้สิ่งแทรกแซงทางดนตรี (การฟังเพลง การร้องเพลง และดนตรีบำบัด) สามารถสร้างการพัฒนาสุขภาพจิตอย่างมีนัยสำคัญ และการปรับปรุงคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพกายของ ชีวิต. ในขณะที่นักวิจัยพบว่ามีผลกระทบเชิงบวกต่อคุณภาพชีวิตทางจิตใจ พวกเขาไม่พบการแทรกแซงหรือ “ปริมาณ” ของดนตรีที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน

ความซับซ้อนของดนตรี ในฐานะที่เป็นมนุษย์ที่ซับซ้อนจากหลากหลายวัฒนธรรม ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลายและความต้องการด้านสุขภาพกายและใจ ความเชื่อมโยงของเรากับดนตรีเป็นเรื่องส่วนตัวมาก ความสัมพันธ์ของเรากับดนตรีอาจเป็นการเต้นที่สวยงาม เปราะบาง และมักจะซับซ้อน ซึ่งเปลี่ยนจากช่วงเวลาหนึ่งไปอีกช่วงเวลาหนึ่งตามอารมณ์ ความชอบ สถานการณ์ทางสังคม และประสบการณ์ที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่ดนตรีสามารถส่งผลที่ชัดเจนและทันทีต่อความเป็นอยู่ที่ดีของเรา:

ผ่อนคลายช่วงการเปลี่ยนภาพเพื่อเข้าสู่โหมดสลีปด้วยเพลย์ลิสต์ที่ผ่อนคลาย หาแรงจูงใจในการออกกำลังกายด้วยการฟังเพลงแดนซ์มันส์ๆ ช่วยระบายอารมณ์ด้วยการร้องเพลง เชื่อมต่อกับผู้อื่นโดยเข้าร่วมการแสดงดนตรีสด

ดนตรีสามารถใช้เป็นเครื่องมือบำบัดได้อย่างไร ดนตรีบำบัดเป็นวิชาชีพด้านการดูแลสุขภาพที่จัดตั้งขึ้นซึ่งใช้การแทรกแซงทางดนตรีตามหลักฐานเพื่อกำหนดเป้าหมายการดูแลสุขภาพเพื่อการบำบัด ดนตรีบำบัดเกิดขึ้นระหว่างผู้ป่วย (และอาจเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยและ/หรือครอบครัว) กับนักบำบัดโรคทางดนตรีที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการซึ่งสำเร็จการศึกษาหลักสูตรดนตรีบำบัดระดับปริญญาตรีหรือบัณฑิตที่ได้รับการรับรอง

นักบำบัดด้วยดนตรีใช้การแทรกแซง (การร้องเพลง การสำรวจเครื่องดนตรี การแต่งเพลง การเคลื่อนไหว การสร้างดนตรีดิจิทัล และอื่นๆ) และการเปิดกว้าง (การฟังเพลง ภาพที่มีการนำทางด้วยดนตรี การสร้างรายการเพลง หรือการสนทนาทางดนตรีและการระลึกถึง) และสร้างเป้าหมายเพื่อปรับปรุงสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี

เป้าหมายบางอย่างอาจรวมถึงการลดความวิตกกังวล อารมณ์ของคุณลดลง การรับรู้ความเจ็บปวดลดลงระหว่างการรักษามะเร็งหรือการรักษาพยาบาลอื่นๆ การเพิ่มการแสดงออก การค้นหาแรงจูงใจ และอื่นๆ อีกมากมาย แนวทางในการใช้ดนตรีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายประเภทนี้ และเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยทั่วไปของคุณ สามารถเปลี่ยนแปลงได้เป็นครั้งคราว และนักบำบัดด้วยดนตรีสามารถช่วยคุณค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์เฉพาะ

 

สนับสนุนโดย    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย