ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับขั้วโลกเหนือ 

        เชื่อว่าสำหรับใครที่เคยเรียนเกี่ยวกับเรื่องของวิทยาศาสตร์จะรู้ว่าโลกของเรานั้นมีทั้งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้

  ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เองก็ได้มีการออกไปสำรวจทั้งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้มาแล้วด้วยในบทความนี้เราจะมาพูดถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับขั้วโลกเหนือซึ่งใบคนนั้นอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าครูเหนือมีลักษณะเป็นแบบไหน 

       สำหรับโคกเหนือนั้นคุณรู้หรือไม่ว่าไม่เคยมีใครไปอาศัยอยู่ที่นั่นได้เลยส่วนใหญ่แล้วที่เคยเดินทางไปที่ขั้วโลกเหนือนั้นก็เดินทางไปเพี้ยงเพี้ยงการท่องเที่ยวเท่านั้นซึ่งในแต่ละปีนั้นมีคนจำนวนน้อยมากที่ตัดสินใจที่จะเดินทางไปเที่ยวขั้วโลกเหนือโดยประมาณการคนที่เดินทางไปที่ขั้วโลกเหนือซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวรวมถึงคนที่เข้าไปสำรวจเกี่ยวกับขั้วโลกเหนือนั้นมีเพียงแค่ไม่เกินปีละ 10 คนเท่านั้น

       อย่างไรก็ตามเรามาพูดถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่ที่เราเรียกกันว่าโคตรเหมือนกันซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ที่มีน้ำแข็งปกคลุมไปทั่ว

แม้แต่ในมหาสมุทรเองก็ยังมีน้ำแข็งปกคลุมซึ่งแม้แต่เรือที่สามารถใช้ตัดถังน้ำแข็งก็ยังไม่สามารถที่จะตัดน้ำแข็งที่บริเวณขั้วโลกเหนือได้ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้คนไม่ค่อยเดินทางไปมากนักยกเว้นว่าจะมีช่วงระยะเวลาหนึ่งซึ่งเป็นช่วงที่น้ำแข็งค่อนข้างบางซึ่งจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนั้นเดินทางไปเที่ยวกันโดยที่ขั้วโลกเหนือนั้นจะมีการเปิดการเดินทางไปเที่ยวเพียงแค่ปีละ 5 ครั้งเท่านั้นเอง

         อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้คนไม่ค่อยสนใจเดินทางไปที่ขั้วโลกเหนือมากนักก็เพราะว่าอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้เพราะโลกเหนือนั้นไม่มีช่วงเวลาคุณจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่านะเวลาที่คุณอยู่ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณกี่โมง  นอกจากนี้อุปกรณ์อย่างเช่นเข็มทิศคุณก็จะไม่สามารถใช้งานได้  

         ที่สำคัญขั้วโลกเหนือไม่เหมาะกับการเข้าไปอยู่อาศัยเพื่อที่นั่นไม่มีน้ำดื่มให้คุณสามารถดื่มได้เลย 

เพราะถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นพื้นที่ที่มีความหนาวเย็นและมีน้ำของมหาสมุทรแต่มันก็เป็นน้ำแข็งดังนั้นเราจึงไม่สามารถที่จะกินน้ำแข็งหรือน้ำในมหาสมุทรได้ถึงแม้ว่าเราจะเจาะลงไปก็จะเจอกับความเค็มของน้ำในมหาสมุทรนั้นเองดังนั้นที่ขั้วโลกเหนือจึงเป็นสถานที่อีกหาน้ำยากพอๆกับการหาน้ำในทะเลทรายนั้นเอง 

           อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าตอนนี้ทั่วโลกกำลังเจอกับสภาวะโลกร้อนเส้นทางนักวิทยาศาสตร์เองก็เชื่อว่าในอีกไม่นานนี้ซึ่งอาจจะไม่เกิน 50 ปีข้างหน้านี้อาจจะมีคนเดินทางไปที่ขั้วโลกเหนือหรือเข้าไปสำรวจพื้นที่ในโครงเรื่องเหนือเพื่อทำการวิจัยกันเยอะมากขึ้นสาเหตุนั้นก็เพราะว่าความหนาวเย็นของขั้วโลกเหนือจะลดลง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากภาวะโลกร้อนนั่นเอง 

 

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง