การล้อสีผิวไม่ใช่เรื่องตลก

          บนโลกใบนี้มีประชากรทั้งหมดประมาณ 7.674 พันล้านคน มีทวีปทั้งหมด 7 ทวีป มีประเทศทั้งหมด 193 ประเทศ  และไม่มีใครที่จะมีสีผิวสีเดียวกันหมดทั้งโลกหรอก ในประเทศสหรัฐอเมริกาในสมัยก่อนมีการเหยียดสีผิวกันถึงขึ้นทำให้คนผิวสีเสียชีวิตโดยไม่มีเหตุผล รวมไปถึงการกลั่นแกล้ง การกล่าวหาว่าร้าย การพูดจาที่มีแต่จะทำให้ตนผิวสีเสียความรู้สึกและเป็นบาดแผลทางจิตใจจนทำให้คนผิวสีไม่มีที่ยืนในสังคม

          การเหยียดผิวสีเริ่มมาจากในสมัยก่อนในแถบทวีปที่มีคนผิวขาวเยอะ เพราะว่าในทวีปนั้นต้นกำเนิดมีคนผิวขาวเยอะการที่มีคนผิวสีหรือว่าคนที่มีผิวสีแตกต่างไปจากคนอื่นนั้นทำให้เกิดการเหยียดผิวเกิดขึ้น การเหยียดผิวสีนั้นไม่ใช่เพียงการดูถูกคนผิวสี แต่รวมไปถึงการดูถูกชาติกำเนิด เชื้อสาย โดยฉะเพราะคนที่อาศัยอยู่ในทวีป เอเชีย คนแถบตะวันตก มักจะโดนเหยียดสีผิวโดยการถูกเรียกว่า ไอ้ดำ ไอ้มืด ไอ้แขก 

          ในประเทศไทยการเหยียดสีผิวถูกมองเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทำไมหล่ะ ทำไมถึงการเป็นเรื่องปกติไปได้คำตอบก็คือ เกิดจากการปลูกฝัง การได้ยิน การได้ชม การได้เห็น การอบรมสั่งสอน มาตั้งแต่เด็ก ในประเทศไทยมีค่านิยมของความสวยงาม (beauty standard) หรือมาตรฐานความสวยงาม มีมาตรฐานว่า ต้องเป็นคนขาวถึงจะสวย

ต้องเป็นคนหุ่นดีถึงจะสวยต้องมีใบหน้าที่เล็กถึงจะน่ารัก ใช่ค่านิยมนี้เกิดมาตั้งแต่สมัยโบราณแต่ทำไมคนไทยถึงยังยึดติดกับมาตรฐานความสวยที่ตัวเองเป็นคนคิดขึ้นมาได้กัน และด้วยเหตุที่ว่าใครขาวคนนั้นจะสวยจะดูดี ก็ทำให้ในประเทศมีการเหยียดสีผิวกันจนเป็นเรื่องปกติ เช่นการเรียกคนต่างชาติที่มีผิวคล้ำว่า ไอ้ดำ การเรียกคนไทยด้วยกันที่มีผิวคล้ำกว่าตนกว่า ไอ้ดำ ไอ้มืด การที่เด็กถูกผู้ใหญ่เรียกว่า อีดำ ไอ้ดำ เป็นต้น การพูดจาเหยียดสีผิวแบบนี้มีการใช้กันมากมายจนทำให้เป็นเรื่องปกติ ทั้งทั้งที่ไม่ใช่เลยสักนิด

การที่คนที่มีผิวที่แตกต่างจากคนอื่นนั้นนับว่าเป้นเสน่ห์ด้วยซ้ำไปต่ำทำไมคนไทยเราจึงเอาค่านิยมแบบนั้นมาใช้ได้โดยไม่แคร์ความรู้สึกของผู้ที่โดนเหยียดกันหล่ะ มันทำให้คนที่โดนเหยียดมีความรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยก ไม่เหมือนใครหรืออาจจะทำให้คนๆนั้นไม่มีแม้แต่ความมั่นใจในกการจะทำอะไร สามารถทำให้คนๆนึงกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้เหมือนกัน ดังนั้นหยุดเถอะค่านิยมผิดๆเพราะว่า black lives matter ชีวิตของคนผิวสี และทุกคนมีค่าเท่าเทียมกัน

 

สนับสนุนโดย    Ufabet เข้าสู่ระบบ

การทำการเข้าสังคมอย่างง่ายๆ

การที่เราได้มีการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆนั้น เราก็จะมีการที่ต้องเข้าสังคม เพื่อที่จะทำให้เราได้มีการพัฒนาในเรื่องของการงานอีกด้วย ซึ่งการที่เราจะเข้าสังคมจะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะในการที่เราได้มีสังคมที่มากโอกาสในการทำสิ่งต่างๆจะมีเพิ่มมากขึ้น และจะสามารถจะทำให้เราได้มีความรู้ในเรื่องต่างเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

และในการที่เราจะมีการเข้าสังคมต่างๆนั้น เราก็จะมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะในการเข้าสังคม เพื่อที่จะทำให้เราสามารถที่จะเข้ากับผู้คนต่างๆได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งในทักษะที่เราควรที่จะมีในการเข้าสังคมนั้น จะมีดังนี้

ซึ่งทักษะในการที่เราจะทำให้เราสามารถทำการเข้าสังคมได้นั้นก็จะเป็นการที่เรา ต้องมีการพูด การสื่อสารที่ดีในการพูดคุยกับผู้อื่น และทำให้เขาประทับใจซึ่งเราก็จะมีการที่สามารถพูดคุยได้อย่างดี และทักษะในการเข้าสังคมของในแต่ล่ะคนนั้น จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ล่ะคนอีกด้วย ซึ่งจะมีวัฒนธรรม และความเชื่อที่มีความแตกต่างกันอีกด้วย

และจะมีการที่ได้แสดงออกทางคำพูดคุยกันได้เป็นอย่างดี และในการที่เราอยากที่จะมีการปรับตัว เพื่อที่จะทำให้เราสามารถทำการเข้าสังคมได้อย่างง่าย จะต้องมีการวางตัวที่ได้มีความเหมาะสมในการที่จะเข้าสังคม และจะมีการที่พัฒนาให้มีความเข้ากับสังคมที่ได้มีการอยู่อีกด้วย และการที่เราจะมีการพัฒนาด้านการเข้าสังคมนั้นจะมีวิธีที่สามารถทำให้เราได้มีการเข้าสังคมได้อย่างง่ายดังนี้

  1. สภาวะจิตใจ

จะเป็นการที่สามารถมีการส่งผลได้อย่างมากในการเข้าสังคม ซึ่งการที่เราจะเข้าสังคมได้นั้น เราก็จะมีความมั่นใจให้ตนเองนั้นมากๆ เพื่อที่จะให้เราได้มีความกล้าที่จะมีการแสดงออกในการเข้าสังคม ซึ่งจะสามารถที่จะทำให้เราสามารถที่จะเข้าสังคมได้อย่างง่ายอีกด้วย

  1. ปัจจัยอื่นๆในการเข้าร่วม

การที่เราจะมีการพัฒนาในการเข้าสังคมให้เราได้มีการเข้าสังคมที่ง่ายนั้น เราจะต้องมีความจำเป็นที่จะเข้าสังคมต่างๆนั้นบ่อยๆ ซึ่งในการที่เราได้ไปงานต่างๆนั้น เราจะสามารถที่จะมีการฝึกในการเข้าสังนั้นได้เป็นอย่างดี และจะสามารถที่จะมีเพื่อนที่เพิ่มากขึ้นจากเดิม และจะสามารถที่เพิ่มความเป็นธรรมชาติในการเข้าสังคมได้อีกด้วยได้อีกด้วย

 

 

สนับสนุนโดย    บาคาร่า sa gaming

ชายชราวัย 62 ดับคาที่ด้วยกระสุน 7 นัดเพราะภรรยาจับได้ว่านอกใจไปมีกิ๊ก

         ปํญหาเรื่องราวของความหึงหวงของคู่สามี ภรรยา นั้นล้วนเป็นปํญหาของสังคมที่เรามักจะพบเห็นกันอยู่เป็นประจำ บางคู่สามารถกลับมาครองคู่กันได้ แต่บางคู่ก็เลิกรากันไปและสามารถจลลงได้ด้วยดี แต่บางคู่ก็จบกับด้วยความตาย  อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 12 เดือนตุลาคม ปีพ.ศ. 2563  โดยเกิดเหตุที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีการเกิดเหตุที่บ้านหลังหนึ่ง โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้น เป็นการทะเลาะวิวาทกันระหว่างสามีวัย 62 ปี กับภรรยาวัย 49 ปี ซึ่งตามข่าวมีรายงานออกมาว่า ภรรยาได้ใช้อาวุธปืนยิงสามีไปทั้งหมด 7 นัดด้วยกัน 

      โดยหลังจากที่ภรรยาได้ยิงสามีตายแล้ว ก็มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและมีการยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรอมอบตัวอยู่ด้วย  สำหรับอาวุธปืนที่ทางฝ่ายภรรยาใช้ในการยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ภรรยาใช้ปืน  9 มม.  และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนลงมือยิงได้แล้ว  เธอให้การรับสารภาพว่า เธอเป็นคนลงมือยิงสามีของตัวเองจริง ส่วนสาเหตุที่มีการลงมือยิงกันในครั้งนี้มาจากการที่เธอจับได้ว่าสามีของเธอนั้น แอบนอกใจเธอไปคุยกับผู้หญิงคนอื่น

       ซึ่งเรื่องการแอบนอกจากไปมีกิ๊กของสามีของเธอนั้น เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง  และทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง จนเคยเลิกลากันไป แต่ก็กลับมาคืนดีกันใหม่ ล่าสุดเธอก็จับได้อีกรอบที่สามีของเธอแอบไปคุยกับผู้หญิงคนอื่น แถมยังมีการพูดคุยนัดแนะจะไปเจอกัน โดยสามีของเธอมักจะนัดเจอกับผู้หญิงคนใหม่ใหม่ผ่านทางเฟสบุ๊กมาโดยตลอด และทุกครั้งที่จับได้ ก็จะทะเลาะกันตลอดและทุกครั้งสามีของเธอก็ไม่เคยที่จะยอมรับ 

       เธอยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เกิดเพราะว่าเธอรู้สึกโกรธแค้น  และเธอเกิดความแค้นสะสมกันมานานแล้ว จนในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงได้ตัดสินใจนำปืนออกมายิงสามีหลายนัดซ้อนกัน จนสามีตาย  ซี่งจากคำให้การของเธอทำหเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปดำเนินคดี

       และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ไม่ใช่ กรณีแรก  เหตุการณ์แบบนี้มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำทำวัน ทั้งที่เป็นข่าว และไม่ได้เป็นข่าว เรื่องการนอกใจกันนับเป็นปัญหาครอบครัวและสามารถลุกลามไปเป็นปัญหาของสังคมได้ ซี่งหากครอบครัวไหน ทีมีลุกกำลังเล็ก หรือแม้แต่เป็นวัยรุ่น หากลูกลูกได้เห็นพ่อกับแม่ของตัวเองทะเลาะกันเพราะเรื่งอของความหึงหวงอยู่ทุกวันก็จะทำให้เด็กเหล่านั้นมีปัญหา

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เซ็กซี่ บาคาร่าออนไลน์

จุดจบของเมียน้อย

              สำหรับปัญหาสังคมในครอบครัวปัญหาใหญ่  ที่เรามักจะพบเห็นกันเป็นประจำนี่คือปัญหาที่คู่สามีภรรยาแอบมีชู้   ซึ่งปัญหานี้ไม่ว่าจะพยายามที่จะมีการแก้ไขกันมากขนาดไหนแต่ก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้เพราะขึ้นอยู่กับตัวบุคคลแต่อย่างไรก็ตามการที่เป็นชู้กับครอบครัวของคนอื่นนั้นหรือการทำให้คนอื่นน้ำแตกแยกไม่ได้เกิดผลดีกับคนที่เป็นชู้เลยอย่างตัวอย่างที่กำลังจะมีการพูดถึงต่อไปนี้ซึ่งตัวเธอนั้นได้บอกกับสังคมว่าตัวเองนั้นเป็นเมียน้อยของคนอื่นแต่จุดจบของเมียน้อยนั้นไม่ได้สวยหรูแต่อย่างใด

            เเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งอายุ 29 ปีได้ออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานกันหญิงสาวเป็นคนประเทศอังกฤษและเธอนั้นได้ออกมายอมรับกับทุกคนว่าเธอนั้นเป็นเพียงเมียน้อยของเขาโดยเธอเล่าเหตุผลของการยอมเป็นน้อยของชายคนดังกล่าวว่า  เธอรู้อยู่แล้วว่าฝ่ายชายนั้นมีภรรยาและลูกอยู่แล้วซึ่งในตอนแรกนั้นเธอไม่ได้สนใจฝ่ายชายเลยแต่ฝ่ายชายกับตามจีบเธอและยังบอกกับเธออีกว่าเขามีปัญหากับภรรยามานานแล้วและกำลังจะหย่าขาดจากกัน  และเขาสนใจในตัวเธอเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าเขาได้เธอนั้นสามารถเข้ากันได้ดีด้านนิสัยใจคอ

        ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะเป็นภรรยาน้อยของเขาเพื่อรอเวลาให้เขานั้นหย่ากับภรรยาหลวงนั่นเอง  แต่เธอกับเขานั้นคบกันได้เพียงแค่ไม่ถึงเดือนฝ่ายชายก็มีนิสัยที่ไม่เหมือนเดิมชอบหาเรื่องทะเลาะกับเธออยู่เป็นประจำทั้งที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายชายนั้นเอาอกเอาใจเธอมากหาซื้อบ้านให้เธออยู่และมาอยู่กับเธอแทบจะตลอด 24 ชั่วโมงรวมถึงยังซื้อรถพาเธอไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆเรียกได้ว่าฝ่ายชายนั้นไม่เคยกลับไปอยู่กับภรรยาหลวงเลยจนทำให้เธอมั่นใจว่าเขาจะหย่าขาดกับภรรยาหลวงอย่างแน่นอน

         ได้แล้วเพียงแค่ 1 เดือนหลังจากนั้นฝ่ายชายก็แสดงพฤติกรรมธาตุแท้ออกมา เขาเริ่มใช้ถ้อยคำหยาบคายกับเธอและท้ายที่สุดแล้วเขาก็ขอเลิกกับเธอแต่ระหว่างที่ยังอยู่ในเรื่องของการคุ้มครองว่าจะเลิกกันหรือไม่นั้นเขาก็ยังคงมาหาเธอและยังคงมีเซ็กส์กับเธออยู่แต่ในที่สุดแล้วเธอก็ไม่รู้ความจริงภายหลังว่าเขาไปมีผู้หญิงคนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วและบ้านหลังที่เขาเคยซื้อเพื่อที่จะได้อยู่อาศัยกับเธอนั้นฝ่ายชายก็ให้ผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         สำหรับเรื่องนี้เป็นข่าวโด่งดังขึ้นมาเนื่องจากว่าเธอได้มีการติดต่อไปที่ผู้เชี่ยวชาญปัญหาครอบครัวและเธอถามเกี่ยวกับความรู้ที่ว่าเธอควรจะไปบอกฝ่ายหญิงคนใหม่หรือไม่ว่าเธอคนนั้นกำลังจะถูกหลอกเหมือนที่เธอได้เป็นอยู่แต่อย่างไรก็ตามได้มีคนห้ามเธอไม่ให้มีการพูดถึงเรื่องนี้กับฝ่ายหญิงคนใหม่เนื่องจากว่าต่อให้เธอไปบอกเล่าเรื่องราวของเธอให้คนอื่นฟังยังไงผู้หญิงคนนั้นก็คงไม่ฟังเธออย่างแน่นอน

เพราะจะมองว่าเธอนั้นเกิดความอิจฉาริษยาและมาใส่ร้ายฝ่ายชายให้กับเธอฟังซะมากกว่า ดังนั้นผู้ที่ให้คำปรึกษาเธอจึงแนะนำกับเธอว่าให้เธอปล่อยไปและในที่สุดธาตุแท้ของฝ่ายชายก็จะแสดงออกมาให้ผู้หญิงคนใหม่ได้เห็นเอง และแน่นอนว่านี่ควรจะเป็นอุทาหรณ์ของเธอได้อย่างดีเยี่ยมว่าหากผู้ชายยังคงแต่งงานมีครอบครัวอยู่ต่อให้เขาพูดคำหวานมากแค่ไหนว่าเขาจะเลิกกับภรรยาก็ไม่ควรเชื่อใจ

 

สนับสนุนโดย.  บาคาร่า sa

เรียนออนไลน์ ติดเทรนทวิตเตอร์เปิดเรียนวันแรกปัญหาเพียบ 

      จากการที่รัฐบาลออกมาประกาศให้ทดลองการเรียนผ่านทางระบบออนไลน์โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 18 เดือนพฤษภาคมพศ 2563 โดยช่องทางการเรียนออนไลน์นั้นมีทั้งผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์รวมถึงผ่านทางทีวีดิจิตอลซึ่งมีการกำหนดช่องไว้ให้นักเรียนได้เข้าไปชมเรียบร้อยแล้วว่าชั้นไหนต้องดูช่องไหนหลังจากที่มีการเปิดเรียนวันแรกนั้นพบว่ามีคนพูดถึงการเรียนออนไลน์วันแรกกันอย่างกว้างขวาง

โดยผู้ปกครองหลายคนได้มีการถ่ายรูปลูกๆของตนในการนั่งเรียนออนไลน์ผ่านทางทีวีซึ่งในชั่วโมงแรกเด็กๆก็จะดูขยันเรียนกันเป็นอย่างดีแต่หลังจากนั้นก็จะมีภาคต่อมาซึ่งจะเป็นภาพเด็กๆนอนหลับอยู่ที่หน้าจอทีวีกันซะเป็นส่วนใหญ่รวมถึงมีคนออกมาพูดถึงระบบการทำงานผ่านทางคอมพิวเตอร์ว่าเมื่อเข้าไปดูการเรียนออนไลน์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ

หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์นั้นระบบการเรียนออนไลน์กับร่มและไม่เสถียรภาพเท่าที่ควรซึ่งการเรียนในครั้งแรกนั้นถือว่าสอบไม่ผ่านเป็นอย่างมากผู้ปกครองหลายคนต้องเสียเงินไปซื้อทีวีเสียเงินซื้อโทรศัพท์มือถือให้ลูกเพื่อให้มาเรียนออนไลน์เพียงแค่ระยะเวลาแค่ 1 เดือนเท่านั้นซึ่งหลายคนออกปากบ่นว่าไม่คุ้มผู้ปกครองหลายคนต้องไปกู้เงินคนอื่นมาเพื่อที่จะให้ลูกตนเองได้มีการเรียนออนไลน์ได้เหมือนกับเด็กคนอื่นสำหรับเรื่องนี้นั้นทางโฆษกรัฐบาลเองก็ได้ออกมาชี้แจง

ว่าการเรียนออนไลน์ที่มีให้นักเรียนเรียนในช่วงเวลานี้นั้นเป็นการเรียนแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้นซึ่งเมื่อสถานการณ์ของการระบาดของไวรัสดีขึ้นสามารถควบคุมได้ทางรัฐบาลก็จะมีการให้เด็กนักเรียนทุกคนกลับไปเรียนที่โรงเรียนตามเดิม และทางโฆษกรัฐบาลยังได้ออกมาพูดถึงเรื่องปัญหาที่กำลังประสบกันอยู่ในขณะนี้เรื่องของอุปกรณ์การเรียนต่างๆหรือพื้นที่บางพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงการเรียนออนไลน์ได้

และยังพูดถึงเรื่องของภาระที่ผู้ปกครองจะต้องมีการคอยดูแลและรับผิดชอบมากขึ้นหลังจากที่เปิดให้มีการเรียนออนไลน์นั้นทางโฆษกรัฐบาลยืนยันว่าจะนำข้อมูลดังกล่าวมาทำแบบสำรวจและหาแนวทางแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าเดิมครึ่งหนึ่งทางโฆษกรัฐบาลยังบอกอีกด้วยว่าการเรียนผ่านทางระบบออนไลน์นั้น

จะเป็นการช่วยในเรื่องของการลดเวลาเรียนในห้องเรียนซึ่งเป็นการช่วยปกครองทางอ้อมในการลดภาระของผู้ปกครองที่จะต้องตื่นแต่เช้าไปส่งลูกที่โรงเรียนและยังช่วยในเรื่องของปัญหาการจราจรได้ดีอีกด้วยแต่อย่างไรก็ตามปัญหานี้หากมีการสร้างผลกระทบให้กับประชาชนอย่างมากก็อาจจะต้องให้ประชาชนอดทนไปก่อนเมื่อผ่านสภาวะการระบาดของโควิดได้เมื่อไหร่ก็น่าจะมีการกลับมาพิจารณาเรื่องการกลับไปเรียนที่โรงเรียนอีกครั้งหนึ่งแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.     ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

ดราม่าหน้ากากอนามัยตั้งแต่ยังไม่เปิดเทอม 

ยังไม่ทันเปิดเทอมก็มีดราม่าซะแล้วกับสถาบันการเรียนการสอนของโรงเรียนต่างๆที่เกิดขึ้นในตอนนี้เนื่องจากว่ามีการแชร์ข้อมูลจากโรงเรียนแห่งหนึ่งลงในโลกออนไลน์ซึ่งระบุว่ามีการกำหนดการใช้หน้ากากอนามัยของเด็กนักเรียนโดยเจาะจงว่าเด็กผู้ชายนั้นจะต้องใส่หน้ากากอนามัยสีเข้มเท่านั้นส่วนเด็กผู้หญิงนั้นก็ต้องใส่หน้ากากอนามัยสีอ่อนเท่านั้นโดยระบุว่าการสวมใส่หน้ากากอนามัยนั้น

จะต้องไม่มีลวดลายต่างๆเพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นนักเรียนและให้เข้ากับเครื่องแบบนักเรียนนั้นเอง ปัจจุบันนี้ประเทศไทยยังคงมีปัญหาเรื่องของการระบาดของไวรัสโคโรน่าอยู่ถึงแม้ว่าในแต่ละวันนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อจะไม่มากเท่าที่ควรซึ่งบางวันก็ไม่มีผู้ติดเชื้อเลยก็มีแต่เรายังไม่สามารถไว้วางใจได้

ดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นต้องมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนที่จะออกจากบ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั่นเองแต่อย่างไรก็ดีสำหรับในเรื่องของการที่จะเปิดเทอมที่กำลังจะใกล้เข้ามาในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้กลับมีกระแสดราม่าออกมาจากโรงเรียนซึ่งมีการถ่ายภาพเกี่ยวกับข้อความที่ทางโรงเรียนได้มีการเขียนแปะไว้ถึงกฎระเบียบข้อบังคับเรื่องของการสวมใส่หน้ากากอนามัย

สำหรับเด็กนักเรียนว่าจะต้องมีการให้เด็กนักเรียนได้สวมใส่หน้ากากอนามัยสีอะไรซึ่งหลายคนมองว่านี่เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของเด็กนักเรียนมากจนเกินไปเลยมองว่าหากจะจำกัดให้นักเรียนนั้นใส่หน้ากากอนามัยที่ไม่มีลวดลายยังพอกำหนดไม่ได้แต่การที่จะต้องมาทำกับว่าเด็กผู้ชายต้องใส่สีเข้มเด็กผู้หญิงต้องใส่สีอ่อนนั้นดูมันจะเป็นการกำหนดกฎเกณฑ์มากจนเกินไป

เพราะผู้ชายบางคนก็อาจจะชอบสีอ่อนได้หรือผู้หญิงบางคนก็อาจจะชอบสีเข้มได้ก็เช่นเดียวกันดังนั้นทางที่ดีแล้วเพียงแค่นักเรียนสมใส่หน้ากากอนามัยก็น่าจะเพียงพอกับความต้องการของทางโรงเรียนแล้วไม่ควรจะต้องมานั่งบังคับกะเกณฑ์กันเพราะการซื้อหน้ากากอนามัยนั้นบางครั้งมันก็ไม่สามารถที่จะหาได้ง่ายๆว่าจะต้องซื้อสีไหนเป็นสีไหน

หลายคนได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าสำหรับเด็กนั้นทำไมถึงจะต้องมีการถูกกดขี่จากทางโรงเรียนมากมายโดยเฉพาะแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆๆตัวอย่างการสวมใส่หน้ากากอนามัยก็ยังต้องมีการกักเองกันด้วยว่าใครจะต้องใส่สีอะไรซึ่งเรื่องแค่นี้เด็กๆน่าจะมีสิทธิ์ในการที่จะเลือกของตนเองได้แล้วอย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องของข้อมูลหน้ากากอนามัยที่มีการกำหนดที่เอามาแชร์กัน

ในวันนี้ยังไม่ได้มีการออกมาพูดถึงว่าเป็นของโรงเรียนหรือสถาบันไหนหรือเป็นการประกาศออกมาจากรัฐบาลที่เด็กนักเรียนทุกโรงเรียนจะต้องมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยสีในลักษณะนี้ดังนั้นอาจจะต้องรอดูอีกทีนึงว่าสำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องของกฎระเบียบข้อบังคับหน้ากากอนามัยนั้นทางรัฐบาลจะมีการออกมาประกาศว่าอย่างไรบ้าง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.  เซ็กซี่ บาคาร่า ทดลองเล่น

เรียนอย่างไรให้ได้ผลการเรียนที่ดี

           เด็กๆหลายคนคงอยากรู้ว่าเพื่อนที่เขาได้ผลการเรียนดีๆนั้นเขาเรียนกันอย่างไรทั้งๆที่เวลาเรียนคุณครูก็สอนเหมือนกันแต่ทำไมเวลาสอบออกมาเราถึงได้คะแนนน้อยแล้วเพื่อนเห็นได้คะแนนเยอะเรามาดูกันว่าวิธีการจดจำข้อมูลเวลาที่คุณครูสอนนั้นเราควรจะทำอย่างไรได้บ้างที่เราจะสามารถจำบทเรียนเหล่านั้นได้ง่ายๆและนำมาใช้ในการทำข้อสอบได้

          อันดับแรกเลยต้องเริ่มจากตัวเราเวลาที่อยู่ในห้องเรียนนั้นเราควรจะต้องมีการสนใจที่จะฟังสิ่งที่อาจารย์หรือคุณครูผู้สอนต้องการสื่อให้เราทราบบางคนเวลาที่คุณครูสอนอยู่ในขนาดนั้นก้มหน้าก้มตาจดตามข้อมูลที่ขึ้นที่หน้ากระดานโดยอาจจะไม่ได้สนใจฟังคุณครูมากนักซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องเพราะจริงๆแล้วเราสามารถที่จะตั้งใจฟังคุณครูผู้สอนให้เข้าใจความหมายที่คุณต้องการที่จะส่งถึงให้กับเราก่อนเมื่อเราเข้าใจดีแล้ว

เราจึงสามารถทำการจดเลคเชอร์ลงไปได้ถึงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดเพราะถ้าเราสนใจที่จะจดข้อมูลบนหน้ากระดานอย่างเดียวโดยไม่ฟังคุณครูเลยก็เหมือนกับเราจดหนังจากหนังสือแล้วเราก็ต้องไปอ่านทำความเข้าใจเองเชื่อเถอะว่าถ้าหากเราอ่านหนังสือเองเราจะไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกับที่ครูอธิบายที่หน้าห้องเรียนแน่นอนดังนั้นจำเป็นต้องฟังครูอธิบายก่อนที่จะจดช็อตโน๊ตลงไปจะดีที่สุดหลังจากที่สั่งแล้วเราควรจะมีการจับประเด็นที่คุณครูพูดถึงให้เข้าใจได้ว่าประโยคยาวๆที่ครูพูดอธิบายมานั้นเราสามารถย่อเป็นข้อความสั้นๆแล้ว

เราเข้าใจได้อย่างชัดแจ้งได้อย่างไรนั่นคือการวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่งของการเรียนหนังสือนั้นเองเมื่อเรารู้ข้อมูลแล้วเราก็สามารถจดเลคเชอร์ลงในหนังสือของเราได้หรือในสมุดของเราได้เพื่อที่ไปหลังเรากลับมาอ่านเราจะได้เข้าใจและจำได้ง่ายๆยกตัวอย่างของการเรียนนั่นก็คือเช่นกรณีที่เราดูโฆษณาตัวนึงผ่านทางทีวีหากเราตั้งใจดูว่าโฆษณานี้สื่อถึงอะไรเราจะสามารถประมวลผลได้เอง

ว่าโฆษณานี้คือโฆษณาของอะไรและนั่นคือคำตอบที่ถูกต้องที่เราควรจะตั้งใจฟังคุณครูที่สอนเพื่อที่เราจะได้เข้าใจบทเรียนนั้นให้มากที่สุดและเมื่อเสร็จจากการเรียนการสอนหมดคาบเรียนในวิชานั้นแล้วเราก็มาทำการเขียนลงในสมุดบันทึกของเราถึงบทสรุปในวิชาที่คุณครูสอนไปว่าวันนี้ครูสอนเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้างเพื่อที่เราจะได้นำมาทบทวนได้

โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปอ่านหนังสือวิชานั้นทั้งเล่มเพราะในหนังสือนั้นเนื้อหาก็จะมีส่วนหนึ่งแต่คำอธิบายก็จะมีค่อนข้างเยอะซึ่งเวลาที่เราต้องมานั่งอ่านหนังสือสอบมันจะไม่สามารถอ่านได้ทั้งหมดในเวลาอันรวดเร็วได้ดังนั้นเราจึงควรทำสรุปการเรียนการสอนในทุกๆที่เราเรียนมาเพื่อที่ภายหลังเราจะได้เอามาทบทวนได้

โดยไม่ต้องไปอ่านหนังสือโดยใช้เวลานานมากจนเกินไปเพียงแค่เราทำการเรียนแบบตั้งใจฟังและนำข้อมูลที่เราฟังมานั้นมาทำเป็น เอาไว้อ่านภายหลังเท่านี้เองผลการเรียนของเราต้องดีขึ้นจากเดิมขึ้นมาแน่นอน

 

 

สนับสนุนโดย.  เว็บพนันออนไลน์ ฝากขั้นต่ำ 50

หลายคนสงสัยเหตุใดห้างสรรพสินค้าเปิดได้แล้วแต่โรงเรียนยังต้องปิดอยู่

     เกิดคำถามที่หลายคนอาจจะมีความสงสัยอยู่ว่าถ้าสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าในปัจจุบันนั้นดีขึ้นสามารถควบคุมเชื้อโรคได้แล้วถึงขณะที่ตอนนี้ประเทศไทยเราเองนั้นสามารถที่จะเปิดห้างสรรพสินค้าให้ผู้คนเข้าไปจับจ่ายซื้อสินค้ากันได้แล้วแล้วทำไมโรงเรียนถึงยังต้องปิดอยู่อีกผู้ปกครองหลายคนอยากที่จะให้โรงเรียนเปิดเพื่อที่จะได้ให้ลูกหลานไปโรงเรียนเนื่องจากว่าปัจจุบันนี้เมื่อเด็กต้องอยู่ที่บ้าน

ผู้ที่รับผิดชอบดูแลลูกๆก็คือผู้ปกครองซึ่งหลายคนต้องทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วยซึ่งเป็นความยากลำบากในช่วงเวลานี้เป็นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องของคำถามนี้ทางนายแพทย์ทวีศิลป์ก็ได้มีการออกมาพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของการให้เปิดห้างแต่ยังคงมีการปิดโรงเรียนอยู่นั้นเนื่องจากว่าการเปิดทางนั้นต้องการที่จะให้ผู้คนได้มีโอกาสไปจับจ่ายซื้อของที่มีความจำเป็นต้องใช้

ซึ่งบางครั้งสินค้าในการซื้อนั้นไม่ใช่สินค้าเพื่ออาหารการกินอย่างเดียวบางคนตอนนี้อยู่บ้านนางอ้วนมากขึ้นจำเป็นต้องมีการซื้อเสื้อผ้าที่ไซส์ใหญ่ขึ้นหรือแม้แต่บางคนที่ต้องการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆดังนั้นบางครั้งการซื้อของออนไลน์สินค้าบางชนิดก็ไม่เหมาะสมอย่างเช่นเสื้อผ้านั้นหากเราซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์แล้วอาจจะได้สินค้ามาไม่พอดีกับไซส์ของเราก็ได้

ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการเปิดให้ประชาชนได้มีการใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้วแต่ในขณะเดียวกันสำหรับเรื่องของโรงเรียนที่ยังไม่เปิดนั้นเนื่องจากว่าเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าโรงเรียนนั้นเป็นแหล่งที่มีเด็กนักเรียนเยอะและเด็กนักเรียนก็มักจะไม่ค่อยอยู่นิ่งมักจะชอบวิ่งเล่นและสัมผัสกันซึ่งเป็นนิสัยของเด็กอยู่แล้วดังนั้นจึงเป็นความเสี่ยงมากค่ะ

จะปล่อยให้เด็กนักเรียนไปโรงเรียนในช่วงเวลานี้ที่สำคัญช่วงนี้เป็นช่วงระหว่างรอยต่อของการผลิตของอากาศจากอากาศร้อนเข้าสู่หน้าฝนดังนั้นช่วงนี้จึงมีปัญหาในเรื่องของเชื้อโรคเยอะขึ้นเช่นเรื่องของโรคไข้หวัดหรือแม้แต่ไข้หวัดใจและถ้าหากเด็กมีการติดโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่แล้วไปเจอกับโรคไข้ไวรัสโคโรน่าอีกนิดนึงจะทำให้อาการของเด็กเงินสดลงและรักษาได้ยาก

ซึ่งถ้าหากเด็กติดไข้ไวรัสโคโรน่าจากเพื่อนๆที่โรงเรียนก็จะนำโลกนี้ไปติดกับผู้ปกครองที่อยู่ที่บ้านทำให้การระบาดกลับมาอย่างรวดเร็วและอาจจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นก็ได้เชื่อได้เลยว่าการที่โรงเรียนออกมาดูแลเด็กนักเรียนนั้นไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึงแน่นอนเพราะหากเป็นช่วงเวลาที่เด็กนักเรียนไม่ได้อยู่ห้องเรียนแล้วแล้ว

ก็เราไม่สามารถควบคุมเด็กนักเรียนได้ว่าจะไม่ให้เล่นแล้วสัมผัสเพื่อนๆดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือต้องมีความมั่นใจเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เสียก่อนจึงจะสามารถปล่อยให้เด็กนักเรียนไปโรงเรียนได้ตามปกติ

 

 

สนับสนุนโดย    sagame

โรงเรียนกวดวิชา เปิดสอนพิเศษได้แล้ว

           เมื่อวันที 12 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2563 ทางด้าน สบค. ได้มีการประกาศออกมาว่า ตั้งแต่วันที่  15 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป กลุ่มโรงเรียนกวดวิชาและสถาบันการศึกษาต่างๆรวมถึงโรงเรียนนานาชาติจะสามารถเปิดการเรียนการสอนได้และยังรวมถึงโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ต่างจังหวัดที่มีจำนวนนักเรียนไม่เกิน 120 คนนั้นก็สามารถเปิดเทอมให้เด็กนักเรียนได้แล้วเช่นเดียวกัน

ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องเคยเห็นสถานที่ต่างๆเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือสถาบันกวดวิชาต่างๆว่าเวลาที่เด็กนักเรียนเข้าไปเรียนนั้นเด็กๆจะต้องนั่งรวมกันอยู่ในห้องซึ่งค่อนข้างหนาแน่นในจำนวนของเด็กนักเรียนดังนั้นไม่ว่าจะเป็นทางด้านคุณหมอหรือแม้แต่ทางผู้ปกครองเองต่างก็มีความห่วงกันว่าหากสถาบันกวดวิชาต่างๆเปิดให้บริการ

หรือโรงเรียนขนาดเล็กเปิดให้บริการนั้นเป็นการเสี่ยงต่อตัวเด็กหรือไม่ว่าอาจจะถูกเชื้อไวรัสโคโรนาเล่นงานช่วงที่ไปโรงเรียนนี้ได้เนื่องจากว่าสถานที่ต่างๆเหล่านั้นจะมีการถูกจำกัดขอบเขตของการให้บริการเนื่องจากว่าโรงเรียนหรือสถาบันกวดวิชาต่างๆนั้นมักจะมีพื้นที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าซึ่งแน่นอนว่าพื้นที่การเช่าของห้างนั้นจะไม่ได้ใหญ่โตมากนัก

ดังนั้นหากเด็กๆต้องมีการไปเรียนพิเศษก็จะต้องมีการไปนั่งเรียนรวมกันอยู่เป็นจำนวนมากในห้องห้องหนึ่งซึ่งแน่นอนว่าทางโรงเรียนอาจจะมีการจับเด็กนักเรียนนั้นให้นั่งห่างกันได้แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อมีการพักเบรคแล้วเด็กๆก็ต้องกลับมาเล่นกันเนื้อต้องตัวกันและตรงนี้เองที่จะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เด็กนั้นเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้เพราะเด็กๆนั้นคงไม่มีใครคอยมานั่งระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลาและถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าสถานการณ์ของประเทศไทยตอนนี้มีเชื้อโรคที่สามารถติดกันได้ง่ายเพียงแค่สัมผัสเนื้อตัวกันแต่เมื่อเด็กเจอเพื่อนๆอะไรก็เกิดขึ้นได้

เพราะพวกเขาก็จะลืมเรื่องราวเหล่านั้นไปและหันมาสนใจเรื่องของการเล่นกันยิ่งเด็กนักเรียนปิดเทอมมาเป็นระยะเวลาหลายเดือนแต่ไม่เคยได้เจอหน้าเพื่อนเลยพอมาต้องมาเรียนสถานที่ให้เรียนพิเศษซึ่งมีเพื่อนที่เคยเล่นด้วยกันมานานได้มาเจอหน้ากันอีกครั้งหนึ่งแน่นอนว่าพวกเขานั้นต้องมีการเล่นด้วยกันและถูกเนื้อต้องตัวกันอย่างแน่นอน

และนี่เองที่จะทำให้เราไม่สามารถควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กได้  ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาไกลตัวเพราะอีกไม่กี่วันสถาบันกวดวิชาต่างๆก็จะเปิดให้บริการแล้วซึ่งถ้าเด็กนักเรียนนั้นเป็นเด็กมัธยมว่าเขาจะพอรู้เรื่องที่จะสามารถระมัดระวังตนเองได้

แต่ถ้าเป็นสถาบันกวดวิชาสำหรับเด็กเล็กก็อาจจะมีความเสี่ยงอยู่มากดังนั้นผู้ปกครองควรจะพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องของการส่งลูกเรียนกวดวิชาในช่วงเวลานี้ก่อนหากยังเห็นว่ามีความเสี่ยงมากจนเกินไปก็ควรจะหยุดพักเป็นการชั่วคราวก่อนและเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นค่อยมีการส่งลูกเรียนกวดวิชาก็ยังไม่สายจนเกินไป

 

 

สนับสนุนโดย  เปิดบัญชีคาสิโนขั้นต่ำ100

Family man คืออะไร

Family man หรือ ผู้ชายที่รักครอบครัว ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นที่หนึ่ง ทำทุกอย่างได้เพื่อครอบครัว 

แค่นี้ก็พอจะจินตนาการได้แล้วว่าผู้หญิงทุกคนคงต้องใฝ่หาผู้ชายแบบนี้กันอยู่แน่ๆ ผู้ชายที่จะรักและเทิดทูนครอบครัว อุทิศเวลาให้แก่ครอบครัว รักครอบครัว ทุ่มเททำทุกอย่างได้เพื่อครอบครัว เป็นผู้ชายในฝันของสาวๆหลายๆคนเลย 

แล้วผู้ชายแบบไหนที่จะเรียกได้ว่าเป็น Family man บ้างล่ะ

1.ผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว

ไม่ว่างานจะหนักหนาเยอะแค่ไหน ผู้ชายประเภทนี้เขาก็จะจัดสรร แบ่งเวลาให้กับครอบครัวได้เสมอ อย่างเช่น หากเขาต้องทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ เขาก็จะสามารถเหลือเวลาอีก 1 วันเพื่อใช้กับครอบครัว หรือต่อให้เขาต้องไปทำงานต่างถิ่น เขาก็จะหาเวลากลับมาหาครอบครัว หรือคอยติดต่อครอบครัวตลอด ไม่ว่าจะโทรศัพท์ แชทข้อความ หรือวิดีโอคอล

2.ผู้ชายที่ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว

ผู้ชายที่ทำทุกอย่างได้เพื่อครอบครัวนั้นสังเกตได้จากการที่เขาใช้ครอบครัวเป็นแรงผลักดันในการทำงาน อย่างเช่น การขยันทำงานให้มีเงินเดือนเยอะๆ เพื่อที่จะเกื้อหนุนครอบครัว ให้ครอบครัวอยู่อย่างสุขสบาย เพื่อที่เขาจะสามารถเลี้ยงดูทุกคนในครอบครัวได้ เป็นต้น การทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวนั้นเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามากเกินไปก็อาจจะเป็นปัญหาได้ ดังนั้นควรเป็นการทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวอย่างพอดีๆ ไม่มากจนเกินไปที่เรียกว่าเป็นการสร้างภาระให้กับตัวเองได้

3.ผู้ชายที่ทำอะไรก็นึกถึงครอบครัว

ไม่ว่าสิ่งใดที่เขาจะทำ เขาจะนึกถึงครอบครัวอยู่เสมอ หากเขาจะทำสิ่งดีเขาก็จะนึกถึงครอบครัวว่าครอบครัวจะได้อะไรจากการที่เขาทำสิ่งนั้น แต่หากเขาจะทำสิ่งไม่ดี เขาก็จะนึกถึงครอบครัวว่าผลจากการกระทที่เขาได้ทำลงไป ครอบครัวของเขาจะได้รับผลกระทบอะไรตามมาบ้าง ดังนั้นเขาจึงจะพยายามคิดจะทำแต่สิ่งๆดีที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวเพื่อให้ครอบครัวมีความสุข 

4.ผู้ชายที่ภูมิใจในครอบครัวของเขาอยู่เสมอ

ต่อให้ในโลกนี้จะมีครอบครัวที่ดีกว่านี้ แต่เขาก็มักจะภูมิใจในครอบครัวของเขา และเขาจะรู้สึกโชคดีอยู่เสมอที่มีทุกคนในครอบครัวอย่างทุกวันนี้ เขาจะไม่มองหาสิ่งที่ดีกว่า และโฟกัสแค่ครอบครัวของเขาว่าดีที่สุดแล้ว อาจจะไม่ได้ดีเท่ากับครอบครัวไหน แต่สำหรับเขา เขาจะมองว่าครอบครัวที่เขาเลือกคือสิ่งที่เขาภูมิใจและมีความสุขที่สุด

5.ผู้ชายที่รับผิดชอบ

การรับผิดชอบในที่นี้ไม่ใช่แค่ในเรื่องเงินทองค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว แต่หมายถึงความรับผิดชอบในการดูแล เลี้ยงดูคนในครอบครัว รวมไปถึงรับผิดชอบในความผิดของตนเอง เราต้องยอมรับเลยว่าทุกคนทำผิดพลาดได้เสมอ แต่จะมีเพียงไม่กี่คนที่กล้ายอมรับ และรับผิดชอบในความผิดของตนเอง ดังนั้นถ้าผู้ชายคนไหนที่กล้ายอมรับผิด และรับผิดชอบในความผิดของตนเองได้ เขาย่อมเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบดีเลยทีเดียว

นี่ก็เป็นเพียงตัวอย่าง Family man คร่าวๆว่าส่วนใหญ่มักจะเป็นคนแบบไหน แม้นิสัยของผู้ชายแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันไปตามการเลี้ยงดู ตามสภาพแวดล้อมและสังคม เชื่อว่าผู้ชายหลายๆคนก็มีความเป็น Family man อยู่ในตัวเอง เมื่อเขามีครอบครัวแล้ว เลือกแล้วว่าจะสร้างครอบครัว เขาก็ย่อมมีความรับผิดชอบ มีความพยายามที่จะทำให้ครอบครัวมีความสุข สามารถทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวได้ แต่ไม่ได้แปลว่าทุกสิ่งที่กล่าวนี้จะต้องเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ชายเพียงคนเดียว การจะสร้างครอบครัวให้ดีได้ต้องมาจากทุกคนในครอบครัว ดังนั้นทุกคนในครอบครัวควรพยายามเช่นเดียวกับที่ผู้ชายผู้เป็น Family man ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวด้วย 

 

สนับสนุนโดย    บาคาร่าออนไลน์ คืออะไร