ลงทะเบียนร้อยเดียว เที่ยวทั่วไทย 

OneHundred-registration

     OneHundred-registration โดยจะเริ่มเปิดทำการให้ลงทะเบียนรอบแรกวันที่ 11 ถึง 12 พฤศจิกายน 2562 เริ่มตั้งแต่เวลา 6:00 น ถึง 24:00 น. และอีกรอบคือช่วงวันที่ 11 ถึง 12 ธันวาคม 2562 โดยจำกัดจำนวนผู้ลงทะเบียนด้วย ให้วันละ 10,000 คนเท่านั้น

      OneHundred-registration โครงการ “ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย” และ โครงการ “เที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก” โดยเป็นการเปิดให้ประชาชนได้รับสิทธิ์ ที่การท้องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการส่งมอบของขวัญช่วงสิ้นปีมห้แก่ประชาชน และถือว่ายังเป็นมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ ซึ่งได้คาดการณ์ว่า จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 400 ล้านบาท

โดยผู้ใช้สิทธิ์ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 

1.ต้องมีอายุ 18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป

2.ต้องเป็นผู้ที่ทีสัญชาติไทยเท่านั้น

และการใช้สิทธิ์ก็คล้ายๆโครงการ ชิม ช้อป ใช้ คือผู้ได้รับสิทธิ์ต้องไปใช้สิทธิ์ที่นอกจังหวัดของตนเอง ที่นอกเหนือจากในบัตรประชาชน โดย 1 คน ใช้ได้ 1 สิทธิ์เท่านั้น สามารถลงทะเบียนได้ที่ 

www.ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย.com หรือ www.tourismthailand.org/ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย

      รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล ได้แจ้งว่า ทางรัฐบาลได้ขอทำการเชิญชวนประชนคนไทย ให้มาร่วมโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย “ถึงเวลาทัวร์ให้ทั่วไทย” โดยแบ่งออกเป็น 2 แคมเปญ คือ “ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย” และ “เที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก” เพื่อเป็นไปตามนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในช่วงปีใหม่ พ.ศ.2562 นี้ ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีได้ลงมติมีการเห็นชอบกับโครงการนี้ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้และถือว่ายังเป็นโครงการที่สามารถจูงใจให้ประชาชนได้ออกไปท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย   

ประชานที่ได้รับสิทธิ์ 100 บาทสามารถเลือกหมวดต่างที่มีถึง 5 หมวด 

1.การเดินทาง เช่น สามารถใช้เป็นตั๋วเครื่องบิน หรือบัตรโดยสารรถบัสปรับอากาศ

2.ที่พัก 

3.อาหารและเครื่องดื่ม

4.แพคเกจทัวร์

5.ท่องเที่ยวและกิจกรรมนันทนาการ

 

      โครงการ “ถึงเวลาทัวร์ให้ทั่วไทย” ที่ถือว่าเป็นมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงสิ้นปีของไทย จะสิ้นสุดหมดเขตลงในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2562 และทางรัฐบาลก็หวังว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยและเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกด้วย

รู้หรือไม่ เรา check in ที่ไหนได้บ้าง

checkin

checkin ใกล้ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่กันแล้ว หลายคนคงมีแพลนในการเดินทางไปท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศ

checkin ซี่งการเดินทางบางคนก็สะดวกขับรถยนต์ไป แต่บางคนก็สะดวกนั่งเครื่องบิน  และปัญหาสำหรับลูกค้าที่จะใช้โดยสารเครื่องบิน ที่เราจะเห็นตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์กันเป็นประจำคือ การเดินทางไปเช็คอินขึ้นเครื่องไม่ทัน ทั้งเกิดจากลูกค้าออกจากบ้านช้าและมาเจอรถติดบนท้องถนน แล้วยังต้องมาเจอคนต่อแถวรอเช็คอินอีกยาวเหยียด ซึ่งจะทำให้เราต้องมาเสียเวลาแทนที่เราจะได้เอาเวลาตรงไปไปช้อปปิ้งสินค้าในสนามบินได้อีก ดังนั้นเพื่อจึงมีทางเลือกให้กับนักเดินทางทั้งหลายในการเช็คอินว่าคุณจะสะดวกเช็คอินที่ไหน

มาดูช่องทางการเช็คอินว่ามีที่ไหนบ้าง

  1. เช็คอินออนไลน์บนเว็บไซต์  สำหรับช่องทางนี้เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถทำการเช็คอินได้ทุกที่ แต่ต้องทำภายใน 24 ชั่วโมงและ 2 ชั่วโมงการเครื่องออกโดยจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสายการบิน โดยของไทยส่วนสายการบินของประเทศไทยที่มีบริการเช็คอินออนไลน์ ได้แก่ การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ แอร์เอเชีย และนกแอร์  โดยเมื่อทำการยืนยันข้อมูลแล้วคุณสามารถ Boarding Pass จากเครื่องพิมพ์ของคุณได้เลย การเช็คอินออนไลน์นี้จะทำให้เราไม่ต้องเสียเวลามายืนต่อแถวรอ ซึ่งเราสามารถเอาจากตรงนี้ไปเผื่อเวลาที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองและจุดตรวจสัมภาระได้แถมยังมีเวลาเหลือไปเดินไปช้อปปิ้งที่ดิวตี้ฟรีได้อีกด้วย 
  2. เช็คอินผ่านตู้คีออสในสนามบิน เป็นการเช็คอินด้วยตัวเอง  โดยประเทศที่มีตู้เช็คอินจะเป็นประเทศที่มีสนามบินขนาดใหญ่เช่น ประเทศไทย ที่สนามบินญี่ปุ่น  เกาหลี สิงคโปร์ อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน เป็นต้น วิธีการเช็คอินแบบนี้จะทำได้สะดวกและรวดเร็วมากเพราะไม่ต้องยืนรอคิวนาน และขั้นตอนการทำก็ง่ายๆ เพียง สแกนหนังสือเดินทางและตั๋วเครื่องบินอิเล็กทรอนิกส์ (ซึ่งอาจต้องพิมพ์ออกมาจากบ้าน) เลือกว่าจะไปที่ไหน และยืนยันที่นั่ง หลังจากเครื่องจะแสดงรายละเอียดเที่ยวบินของคุณและพิมพ์บัตรขึ้นเครื่องออกมาถ้ามีกระเป๋าเดินทางที่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง ให้ไปเช็คที่จุดวางกระเป๋าของสายการบิน แค่นี้ก็เรียบร้อย ตู้เช็คอินจะเปิดให้สามารถเช็คอินได้ก่อนเคาน์เตอร์เช็คอินเปิด 
  3. เช็คอินผ่าน Mobile App  ทำได้ง่ายๆเพียงเข้าเว็บไซต์ของสายการบินแล้วกรอกข้อมูลให้กดปุ่มเช็คอินหลังจากนั้นจะมีข้อความเข้านำข้อความแสดงกับพนักงานของสายการบินตรงประตูขาออก พนักงานจะสแกนข้อความในมือถือ ปัจจุบันวิธีนี้เป็นที่นิยมมาที่สุดเพราะสะดวกและรวดเร็ว  
  4.  เช็คอินที่เคาน์เตอร์ วิธีการนี้แบบเดิมๆ และเหมาะกับคนที่ไม่ชอบใช้เทคโนโลยี เพราะจะมีพนักงานคอยให้บริการ เช่น ผู้สูงอายุ การเช็คอินผ่านช่องทางนี้ควรมาก่อนเวลาเครื่องออก 2-3 ชั่วโมง

การเมืองเป็นเรื่องของ…?

politics

politics การเมืองเป็นเรื่องของ…?

politics หากจะพูดถึงการเมืองในเวลานี้ก็คงจะเป็นหัวข้อที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนเพราะเรื่องนี้อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งกันได้ แต่หากจะไม่พูดถึงเลยก็เห็นจะไม่ได้จากช่วงเวลาที่ผ่านมาเราพบว่าการเมืองยังคงเป็นประเด็นที่ทุกคนหยิบยกขึ้นมาถกประเด็นและหาคำตอบกันอยู่เป็นประจำ และประเด็นที่ยังคงมีคำถามอยู่ก็คือ “การเมืองเป็นเรื่องของใคร”หากจะบอกว่าเป็นเรื่องรัฐบาลฝ่ายเดียวก็เห็นจะไม่ใช่

เพราะประเทศของเรานั่นปกครองด้วยระบบประชาธิปไตย อันทรงมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดังนั้นการเมืองจึงเป็นเรื่องของทุกๆคนในประเทศครั้งหนึ่งประธานาธิบดีลินคอล์นแห่งสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่า“การปกครองระบอบประชาธิปไตยเป็นการปกครองของประชาชนโดยประชาชนเพื่อประชาชน”

นั่นหมายความว่าอำนาจในการปกครองของระบอบนี้ประชาชนมีอำนาจในการปกครองประเทศตามหลักประชาธิปไตยทางอ้อม กล่าวคือประชาชนมีสิทธิเลือกตัวแทนไปทำหน้าที่ในการปกครองประเทศเพื่อทำหน้าที่รักษาไว้ซึ่งประโยชน์ของประชาชนที่ได้มอบอำนาจให้แต่ประเทศไทยในปัจจุบันนั้นถูกกำหนดให้การปกครองเป็นแบบระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบซึ่งเราก็ยังสามารถมีสิทธิในการปกครองอยู่ดี

สิทธิในการปกครองของเราเกิดจากอะไร

นั่นเกิดจากการมีสิทธิมีเสียงในการเลือกผู้แทนในฐานะพลเมืองเพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในสภาถึงแม้ว่าจะเป็นสิทธิในทางอ้อมแต่ก็ถือเป็นการไม่นิ่งเฉยต่อการมีสิทธิของตนเองเป็นที่มาของช่วงเลือกตั้งที่เหล่าผู้แทนต่างเชิญชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิใช้เสียงของตนเองให้เกิดประโยชน์ เพราะการออกไปเลือกตั้งนั้นไม่เพียงแต่เป็นการออกไปใช้สิทธิเพียงอย่างเดียว

แต่เป็นการออกไปเพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนที่มีอิทธิพลต่อการปกครองและการดำรงไว้ซึ่งระบบการปกครองในรูปแบบประชาธิปไตยว่าจะยังคงอยู่ทั้งนี้ก็ยังเป็นหน้าที่ของพลเมืองที่พึงกระทำอีกด้วย ในเรื่องนี้ไม่ว่าเราจะเป็นใครในสังคมก็ควรจะหันมาสนใจและให้ความสำคัญ เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อได้รัฐบาลมา

และมีการกำหนดนโยบายขึ้นมันจะส่งผลโดยตรงต่อพวกเราทุกคนในการดำเนินชีวิตประจำวันทั้งในเรื่องการคมนาคม การเสียภาษี การอุปโภคบริโภคต่างๆ ล้วนแล้วจะส่งผลกระทบต่อตัวเราเองทั้งนั้นหากจะมองว่าการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ก็ได้เช่นกัน เพราะเมื่อเราได้นักการเมืองที่ดีแล้ว

ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นย่อมตกมาถึงประชาชนในที่สุด

รวมไปถึงประเทศชาติเองก็จะพลอยได้รับผลประโยชน์จากการบริหารงานของรัฐบาลที่ได้มาจากการเลือกตั้งด้วยความเต็มใจของประชาชนด้วยดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของเราทุกคนที่เป็นประชาชนในประเทศนี้ที่พึงควรจะดำรงไว้ซึ่งสิทธิในการปกครองประเทศ